1. ประสิทธิภาพและประสิทธิภาพการผลิต:
กำลังการผลิต: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์มีกำลังการผลิตเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการอาหารสัตว์ประจำวันของฟาร์ม
เอฟเฟกต์การผสม: อุปกรณ์ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมของอาหารมีการผสมอย่างสมบูรณ์เพื่อให้โภชนาการที่สมดุล
ระดับของระบบอัตโนมัติ: ระบบควบคุมอัตโนมัติสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนแรงงาน
2. ความยืดหยุ่นและการปรับตัว:
การปรับตัววัตถุดิบ: เลือกอุปกรณ์ที่สามารถจัดการกับวัตถุดิบประเภทต่าง ๆ เพื่อปรับให้เข้ากับความผันผวนของราคาตลาดและการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล

|
แบบอย่าง |
ความจุ |
มิติ |
น้ำหนัก |
|
mk -125 |
80-100 kg/h |
110*35*70 ซม. |
95 กิโลกรัม |
|
mk -150 |
120-150 kg/h |
115*35*80 ซม. |
100 กิโลกรัม |
|
mk -210 |
200-300 kg/h |
115*45*95 ซม. |
300 กิโลกรัม |
|
mk -260 |
500-600 kg/h |
138*46*100 ซม. |
350 กิโลกรัม |
|
mk -300 |
700-800 kg/h |
130*53*105 ซม. |
600 กิโลกรัม |
|
mk -360 |
900-1000 kg/h |
160*67*150 ซม. |
800 กิโลกรัม |
|
mk -400 |
1200-1500 kg/h |
160*68*145 ซม. |
1200 กิโลกรัม |
| 1. ใช้ในการทำเม็ดอาหารสัตว์ 2. ใช้ในการทำเม็ดไม้เป็นเชื้อเพลิง 3. RAW ขนาดวัสดุต้องการ 3-5 mm; ความชื้น: 10-12% |
|||
สูตรอาหารสัตว์: อุปกรณ์ควรมีฟังก์ชั่นการปรับสูตรที่ยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการการให้อาหารของขั้นตอนการเติบโตและพันธุ์ที่แตกต่างกัน
3. ความน่าเชื่อถือและความทนทาน:
คุณภาพอุปกรณ์: เลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่ดีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้และลดอัตราความล้มเหลว
ความทนทาน: พิจารณาความทนทานของอุปกรณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิ้นส่วนที่มักจะติดต่อวัสดุเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและการเปลี่ยน
4. การประหยัดพลังงานและการปกป้องสิ่งแวดล้อม:
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน: เลือกอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่สูงขึ้นเพื่อลดการใช้พลังงานและปรับปรุงเศรษฐกิจของกระบวนการผลิต
ลักษณะการป้องกันสิ่งแวดล้อม: อุปกรณ์ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐานการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม
5. การบำรุงรักษาและใช้งานง่าย:
ความสะดวกในการบำรุงรักษา: อุปกรณ์ควรดูแลรักษาได้ง่ายและควรมีชิ้นส่วนง่าย ๆ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและการหยุดทำงาน
ใช้งานง่าย: อุปกรณ์ที่ใช้งานง่ายและทำความสะอาดง่ายสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้
